0013 | เว็บโหด โคตรสยอง
เมื่อวานงานเข้าครับ
ติดตั้งระบบใหม่ทั้งเครื่อง เว็บบอร์ดใต้ดินแห่งหนึ่ง
เนื่องด้วยคนเข้าเยอะชิบหาย แถมเป็นเว็บบอร์ด SMF ซะด้วย
โจทย์มีมาให้ค่อนข้าง… เอ่อ… ระดับนึงละครับ
server 2 เครื่อง เครื่องแรก Core 2 Duo E6600 / RAM 3 GB
เครื่องที่สอง Core 2 Quad Q6xxx อะไรซักอย่าง จำรุ่นไม่ได้ / RAM 3GB
จะบอกว่ามันใช้งานหนักเอามากๆ
งานนี้ก็เลยต้องทดลองมันสารพัดวิธีเลยครับ
เริ่มจาก level แรกสุด apache + squid reverse proxy ไม่ผ่านเลยครับ (load avg 50.xx)
level ที่สอง เพิ่ม DNS Round Robin เข้าช่วย เอาเครื่อง DB มาช่วยรันเว็บด้วย ก็ยังไม่ผ่าน แต่ดีขึ้นหน่อยนึง (load เหลือ 30.xx)
level ที่สาม ลง memcache ช่วยระบบ session + SMF memcache ก็ไม่ผ่านอยู่ดี แต่ดีขึ้นใช้ได้ (load เหลือ ~25.xx)
level สุดท้าย เลิกใช้ apache ลบ squid ทิ้ง แล้วลง lighttpd 1.4 + mod fastcgi แทน
load average ลดลงมาเหลือประมาณ 5-6 แต่ page generation time ก็ยังไม่ค่อยจะน่าพอใจ
แบบว่าหน้า index พี่ซัดไป 300 KB เยอะโคดเลย
งานนี้ขอเวลาไปสัปดาห์นึง ต้องนั่งเฝ้าอีก เห้อ… ไหนจะงานรับน้องด้วย งิดๆๆๆ
เพิ่มเติมทางเทคนิค:
NFS service บน Fedora 7 เป็นต้นมา มีการเปลี่ยนแปลงชื่อ service นิดๆ หน่อยๆ
ทำเอางงกันใช้ได้ (ฮาๆ) ตามรายการต่อไปนี้ครับ
- nfs ยังคงสภาพเดิม คำสั่งเดิมได้เลย
- portmap เปลี่ยนชื่อไปเป็น rpcbind
- เพิ่มเติม service nfslock ไว้ทำ nfs remote lock เวลาต้องการ lock access file ต่างๆ
ขั้นตอนการติดตั้ง nfs บน Fedora 8 ง่ายมากจนน่าตกใจ ดังนี้ครับ
# yum install nfs-utils
จบเลย คำสั่งเดียวสั้นๆ ง่ายๆ เลย
เสร็จแล้วก็ตั้งค่าให้รันตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่อง (สำหรับเครื่อง nfs server เท่านั้น)
# chkconfig nfs on
# chkconfig nfslock on
# chkconfig rpcbind on
แล้วแก้แฟ้ม /etc/exports ตามคู่มือ (รายละเอียดค่อนข้างเยอะ ไว้ค่อยสาธยาย ง่วงมาก)
พร้อมด้วยการแก้ /etc/hosts.allow เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ nfs server
แก้เสร็จแล้วก็สั่ง start service ทั้งสามตัวได้เลย ตามลำดับต่อไปนี้
# service rpcbind start
# service nfs start
# service nfslock start
จากนั้นไปที่เครื่อง client ที่จะ mount nfs partition แล้วทดลองสั่งค้นหา partition ที่อนุญาตให้ mount ดู ตามนี้
# showmount -e 10.0.0.1
* กรุณาแก้ IP เป็น IP ของเครื่อง nfs server ของท่านครับ พอ list ได้ที่แล้วก็สั่ง mount ได้เลย
# mount 10.0.0.1:/path/to/exports /path/to/exports
กรณีการทำ load balancing แนะนำให้ mount ลงไปที่ path เดียวกันกับเครื่อง server ครับ
จะช่วยลดปัญหายุ่งยากลงได้เยอะ
Tags: load balance, nfs, optimize, postmunlife